“FinTech”

Product Update : กองทุน B-FUTURE และ B-FUTURESSF

โดย Product Management, กองทุนบัวหลวง

กองทุน B-FUTURE มีแนวคิดการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวกับนวัตกรรมใหม่ๆ และการบริโภคในอนาคต หรือ “Future of Everything” จึงเห็นว่า แนวคิด FinTech เป็น Sub-Sector ที่น่าสนใจ มีแนวโน้มเติบโตที่ดีในอนาคต

เมื่อพิจารณาการลงทุน B-FUTURE ในปัจจุบัน มีการลงทุนที่เน้นแนวคิดด้านปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) และ การบริโภคในอ

นาคต ซึ่งมีทั้งลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศและลงทุนตรงในหุ้นนั้น ผู้จัดการกองทุนเห็นว่าการเพิ่ม Sub Sector ที่เกี่ยวข้องกับ FinTech จะเพิ่มโอกาสให้กองทุนมีผลตอบแทนที่ดีขึ้น ในช่วงนี้ที่ตลาดมีความผันผวนและราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นมามากแล้ว FinTech เป็น Sub-Sector ที่ราคายังขึ้นมาไม่มากนักและมีความผันผวนน้อยกว่ากลุ่มอื่นที่เป็นหุ้นเทคโนโลยีเหมือนกัน ดังนั้น การเพิ่ม Sub-Sector ที่เป็น FinTech จะช่วยลดความผันผวนของผลการดำเนินงาน จากการที่ราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอื่นปรับตัวสูงขึ้นมาก โดยยังคงแนวคิดหลักของกองทุนที่เน้นลงทุนในนวัตกรรมและการบริโภคในอนาคต ในช่วงแรกผู้จัดการกองทุนจะทยอยเพิ่มน้ำหนักการลงทุนใน FinTech ประมาณปลายปีนี้ และจะติดตามสถานการณ์การลงทุนอย่างใกล้ชิดต่อไป

FinTech คือ อะไร

ฟินเทคกำลังสร้างความเปลี่ยนแปลงกับระบบเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการเงินโลก นอกเหนือจากการประยุกต์ระบบสื่อสารออนไลน์มาใช้กับธุรกิจแล้ว ยังเป็นการ Disrupt ซึ่งหมายถึงเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคจากแบบเดิมไปสู่สิ่งใหม่

กระแสคำว่าฟินเทคเกิดขึ้นเพราะการมาของ Startup บริษัทสายเทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมการเงินได้อย่างรวดเร็ว และเป็นแรงผลักดันให้สถาบันการเงินอย่างธนาคารต้องเร่งคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ ยกตัวอย่างเช่น TransferWise เป็น Startup บริการการโอนเงินข้ามประเทศ ช่วยให้โอนเงินข้ามประเทศได้เร็วกว่า และค่าธรรมเนียมถูกกว่าใช้บริการเคาท์เตอร์ของสถาบันการเงินต่างๆ

กล่าวได้ว่าฟินเทคก่อให้เกิดตลาดใหม่อันเกิดจากการเชื่อมกันระหว่างด้านการเงินและเทคโนโลยี เป็นส่วนผสมของกระบวนการดั้งเดิมในเรื่องทางการเงินไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ – เงินทุนหมุนเวียน, Supply Chain, กระบวนการชำระเงิน, การฝาก/ถอน, ประกันชีวิต, การบริหารความมั่งคั่ง และอื่นๆ แต่แทนที่จะเป็นโครงสร้างการทำธุรกรรมแบบเดิมก็มีการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์แบบและสะดวกต่อผู้ใช้งานมากขึ้น

ทำไมต้อง FinTech

ทุกอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบจาก Digitalization และ E-commerce เช่น ค้าปลีกที่ผู้บริโภคมีการบริโภคออนไลน์มากขึ้น อุตสาหกรรมบันเทิง เช่น การดูหนัง ฟังเพลง ผ่าน digital channel เป็นต้น ด้านการเงินก็เช่นกัน ระบบการเงินแบบออนไลน์มีบทบาทมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่จะมีผลกระทบอย่างมากต่ออุตสาหกรรมการเงินในอนาคต

อุตสาหกรรมการเงินมีแนวโน้มตอบสนองต่อนวัตกรรมใหม่ๆ ต่างจากอุตสาหกรรมอื่น กล่าวคือ

  • ผู้บริโภคมีแนวโน้มปรับตัวช้ากว่าอุตสาหกรรมอื่น เช่น หากจะให้ผู้บริโภคให้บัญชีธนาคารเป็น Online ทั้งหมด อาจจะมีบางกลุ่มที่ยังไม่สามารถปรับตัวได้
  • สถาบันการเงินใช้ระยะเวลาในการปรับตัวมากกว่าอุตสาหกรรมอื่น เพราะมีความรับผิดชอบต่อลูกค้าในหลายๆ ด้าน และการปรับโครงสร้างหลักของระบบงาน (Infrastructure) อาจต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร
  • หน่วยงานกลางที่ดูแลกฎระเบียบของสถาบันการเงิน มีระยะเวลาในการปรับตัวและเรียนรู้นวัตกรรมต่างๆ เพื่อให้การควบคุมกฎเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ดังนั้น กลุ่ม Fintech สามารถเติบโตได้อีกมากในอนาคต โดย FinTechจะครอบคลุมทั้ง

  • ระบบการชำระเงิน (Payment)
  • การพัฒนานวัตกรรมการให้บริการกับลูกค้าในทุกด้าน (Digitalization of Financial Services) และ
  • การลงทุนในโครงสร้างระบบงานเพื่อรองรับนวัตกรรมเหล่านั้น (Technology Infrastructure)

ด้านการชำระเงิน (Payment System) ในอนาคตระบบการชำระเงินแบบ cashless จะทวีคูณมากขึ้น จะมีช่องทาง/รูปแบบชำระเงินที่หลากหลาย และสกุลเงินที่เป็น Digital Currency มากขึ้น

ด้านการให้บริการของสถาบันการเงินที่ต้องปรับให้มีนวัตกรรมใหม่ เช่น การทำธุรกรรมทางอิเล็คทรอนิกส์ การใช้เทคโนโลยีในการติดต่อลูกค้าในทุกขั้นตอน ซึ่งสถาบันการเงินมีหลายธุรกิจที่ให้บริการลูกค้า ดังนั้น นวัตกรรมใหม่นี้หมายความรวมถึงการให้บริการด้านเงินฝาก การลงทุน การบริหารความมั่งคั่ง การให้สินเชื่อ และธุรกิจอื่นๆ ของสถาบันการเงินด้วย

ด้านการลงทุนในโครงสร้างของระบบงานหลัก ปัจจุบันระบบงานหลักของสถาบันการเงินส่วนใหญ่จะเป็นระบบที่ไม่สอดคล้องกับนวัตกรรมใหม่ ดังนั้นสถาบันการเงินมีแนวโน้มจะลงทุนในระบบงานหลักในอนาคตอันใกล้นี้ และต้องมี Hardware&Software รองรับด้วย

ข้อมูลในบทความนี้เป็นข้อมูลที่มีการเผยแพร่ต่อสาธารณะ ซึ่งนักลงทุนสามารถเข้าถึงได้โดยทั่วไป และเป็นข้อมูลที่เชื่อว่าน่าจะเชื่อถือได้ แต่ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (“บริษัท”) มิได้ยืนยันหรือรับรองถึงความถูกต้อง หรือสมบูรณ์ของข้อมูลดังกล่าวแต่อย่างใด ความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความนี้เป็นเพียงการนำเสนอในมุมมองของบริษัท และเป็นความคิดเห็น ณ วันที่ปรากฏในบทความเท่านั้น ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ภายหลังวันดังกล่าว โดยบริษัทไม่จำเป็นต้องแจ้งสาธารณชน หรือผู้ลงทุนทราบ บทความฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้น บริษัทไม่รับผิดชอบต่อการนำข้อมูลหรือความคิดเห็นใดๆไปใช้ในทุกกรณี ดังนั้นผู้ลงทุนควรใช้ดุลพินิจในการพิจารณา เนื่องจากการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนจึงควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

November 9, 2020