ลงทุนจีน “ทั่วโลก”

(เลือกที่ภาพเพื่ออ่าน BF  Product Update ฉบับเต็ม)

Highlight

  • ดัชนีบ่งชี้ทางเศรษฐกิจ อาทิ ยอดขายบ้านใน 30 เมืองหลัก ปริมาณการใช้ถ่านหินในการผลิตพลังงาน ระดับการจราจรใน 10 เมืองหลัก กลับมาอยู่ที่ระดับเดียวกันกับก่อนเกิดการระบาดของ COVID-19
  • ความขัดแย้งทางการค้าที่ตึงเครียดต่อเนื่องทำให้บริษัทจีนที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดของสหรัฐฯ หันกลับมาจดทะเบียนในตลาดจีน และฮ่องกงเพราะต้องการลดความไม่แน่นอนของตัวเอง ซึ่งส่งผลดีเพราะเกือบทั้งหมดเป็นธุรกิจที่มีคุณภาพสูงซึ่งจะได้รับประโยชน์จากโครงสร้างระยะยาวที่เปลี่ยนแปลงไปของเศรษฐกิจจีน
  • ระดับราคาหุ้น Valuation ถูกกว่าสหรัฐฯ เมื่อวัดจากอัตราส่วน Price-to-Earnings Ratio สิ้นปี 2563 ตลาดหุ้นจีน A-Shares ปัจจุบันซื้อขายต่ำกว่า (Discount) เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ (ดัชนี S&P 500) ที่ประมาณ -30%
  • ในระยะสั้นยังต้องติดตามสัญญาณลดความร้อนแรงของราคาหุ้นจากการซื้อขายหลักทรัพย์ในบัญชีมาร์จิ้นของนักลงทุนรายย่อย

เศรษฐกิจจีนปัจจุบันอยู่ ณ จุดเริ่มต้นของการฟื้นตัวหลังก้าวข้ามผ่านสถานการณ์ COVID-19 และกำลังจะเร่งเศรษฐกิจด้วยการผลักดัน การบริโภคภายในประเทศ คาดการณ์จะแซงหน้าสหรัฐฯ ในฐานะเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกภายในปี 2030 หุ้นจีนเป็นตลาดที่มีความเฉพาะตัวเห็นได้จากมีจำนวนบริษัทเทคยูนิคอร์นมากที่สุดของโลก บริษัทเหล่านี้แน่นอนว่ามีศักยภาพในการก้าวเข้าถึงความต้องการของลูกค้า ตอบโจทย์การบริโภคในประเทศที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนใหม่ในการก้าวไปสู่เศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก

หุ้นจีนจะมีการจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์หลายประเทศ ทั้งในประเทศจีน (เอแชร์) ประเทศฮ่องกง และประเทศสหรัฐฯ (US-listed) แต่ละตลาด จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน แทนที่นักลงทุนจะโฟกัสไปยังตลาดเดียว กลยุทธ์การลงทุนแบบ all-in จะช่วยให้แสวงหาโอกาสลงทุน ทั้งหมดที่มีในจีนได้

ในอดีตนักลงทุนต่างชาติจะเข้ามาลงทุนหุ้นจีนผ่านเฉพาะบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดฮ่องกง ในเวลาเดียวกันบริษัทจีนเริ่มมีการจด ทะเบียนในสหรัฐฯ มากขึ้นเป็นการอำนวยความสะดวกให้นักลงทุนเข้าถึงหุ้นจีน การขยับขยายดังกล่าวได้นำมาสู่การเปิดตลาดเอแชร์ ซึ่งเป็นตลาดของหุ้นจีนที่จดทะเบียนในประเทศ ผ่านการลงทุนช่องทางสต็อคคอนเนคโปรแกรม

บริษัทจีนที่จดทะเบียนในฮ่องกงส่วนใหญ่เป็นเศรษฐกิจแบบเก่าเช่น สถาบันการเงิน สื่อสาร สาธารณูปโภค (ยกเว้นเทคโนโลยี) ขณะเดียวกันบริษัทจีนที่จดทะเบียนอยู่ในสหรัฐฯ จะเน้นไปทางธุรกิจประเภทสินค้าฟุ่มเฟือย สื่อสาร ขณะที่บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดเอแชร์มีความคลอบคลุมที่หลากหลายกว่า เป็นเศรษฐกิจใหม่ เช่น ธุรกิจประเภทท่องเที่ยว บันเทิง อุปกรณ์สื่อสาร 5G เฮลธ์แคร์ อุตสาหกรรมออโตเมชั่น พลังงานทางเลือก ยานยนต์ ไบโอเทคโนโลยี

ความขัดแย้งทางการค้าที่ตึงเครียดต่อเนื่องทำให้บริษัทจีนที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดของสหรัฐฯ หันกลับมาจดทะเบียนในตลาดฮ่องกง เพราะต้องการลดความไม่แน่นอนของตัวเอง ซึ่งส่งผลดีเพราะเกือบทั้งหมดเป็นธุรกิจที่มีคุณภาพสูงซึ่งจะได้รับประโยชน์จากโครงสร้าง ระยะยาวที่เปลี่ยนแปลงไปของเศรษฐกิจจีน ในอีกมุมหนึ่งการที่บริษัทเหล่านี้หันกลับมาจดทะเบียนในบ้านเกิดของตัวเอง ก็อาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในประเทศทั้งรายย่อยและสถาบันที่ต้องการขยายกรอบการลงทุน

สำหรับกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีน (B-CHINE-EQ) มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ โดยจะเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทตราสารทุน ที่ออกโดยบริษัทจีนได้ทุกตลาด กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีนได้มอบหมายให้ Allianz Global Investors Asia Pacific Limited เป็นผู้รับดำเนินการในต่างประเทศ (Outsourced Fund Manager)

ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2563 กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีน มีรายละเอียดการลงทุนในหน่วยลงทุนกองทุน Allianz China A Shares 42.02% และหน่วยลงทุนกองทุน Allianz All China Equity 33.80% ส่วนที่เหลือเป็นการลงทุนในบริษัทรายตัว

และในแต่ละกองทุนมีการลงทุน Top Holdings 10 ตัว ณ 31 กรกฎาคม 2563 ดังนี้

Allianz China A Shares

  1. LUXSHARE PRECISION INDUSTR-A
  2. CITIC SECURITIES CO-A
  3. JIANGSU HENGLI HYDRAULIC C-A
  4. WULIANGYE YIBIN CO LTD-A
  5. HUATAI SECURITIES CO LTD-A
  6. SHANXI XINGHUACUN FEN WINE-A
  7. PING AN INSURANCE GROUP CO-A
  8. ANGEL YEAST CO LTD-A
  9. CHINA TOURISM GROUP DUTY F-A
  10. CHINA MERCHANTS BANK-A

Allianz All China Equity

  1. TENCENT HOLDINGS LTD
  2. ALIBABA GROUP HOLDING LTD KYG017191142
  3. ALIBABA GROUP HOLDING-SP ADR
  4. LUXSHARE PRECISION INDUSTR-A
  5. WULIANGYE YIBIN CO LTD-A
  6. JIANGSU HENGLI HYDRAULIC C-A
  7. SHANXI XINGHUACUN FEN WINE-A
  8. CHINA TOURISM GROUP DUTY F-A
  9. ANGEL YEAST CO LTD-A
  10. MEITUAN DIANPING-CLASS B

ข้อมูลในบทความนี้เป็นข้อมูลที่มีการเผยแพร่ต่อสาธารณะ ซึ่งนักลงทุนสามารถเข้าถึงได้โดยทั่วไป และเป็นข้อมูลที่เชื่อว่าน่าจะเชื่อถือได้ แต่ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (“บริษัท”) มิได้ยืนยันหรือรับรองถึงความถูกต้อง หรือสมบูรณ์ของข้อมูลดังกล่าวแต่อย่างใด ความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความนี้เป็นเพียงการนำเสนอในมุมมองของบริษัท และเป็นความคิดเห็น ณ วันที่ปรากฏในบทความเท่านั้น ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ภายหลังวันดังกล่าว โดยบริษัทไม่จำเป็นต้องแจ้งสาธารณชน หรือผู้ลงทุนทราบ บทความฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้น บริษัทไม่รับผิดชอบต่อการนำข้อมูลหรือความคิดเห็นใดๆไปใช้ในทุกกรณี ดังนั้นผู้ลงทุนควรใช้ดุลพินิจในการพิจารณา เนื่องจากการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนจึงควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

  

August 13, 2020