15 ม.ค. 2019 Update สถานการณ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน
BF Economic Research, กองทุนบัวหลวง
• สหรัฐฯ ประกาศจะไม่ปรับลดภาษีนำเข้าแก่จีน ภายใน 10 เดือนหลังการลงนามในข้อตกลงการค้าระยะที่หนึ่งในวันนี้ ขณะที่การเจรจาในระยะต่อไปจะขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตามข้อตกลงของจีนเป็นหลัก
• นาย Robert Lighthizer, U.S. Trade Representative และนาย Steven Mnuchin, Treasury Secretary ได้ออกมายืนยันว่า ณ ขณะนี้ยังไม่มีข้อตกลง ไม่ว่าจะเป็นลายลักษณ์อักษรหรือด้วยวาจา เกี่ยวกับการพิจารณาปรับลดภาษีนำเข้ามากกว่าที่ได้เคยประกาศไปก่อนหน้านี้ ที่ได้ยกเลิกแผนการขึ้นภาษีในสินค้าหมวดอุปโภคบริโภค และลดภาษีนำเข้ากับสินค้ารวม 120 พันล้านดอลลาร์ฯ ซึ่งประกาศไปในเดือน ธ.ค. 2019 เท่ากับว่า ณ ขณะนี้ การตกลงทางการค้าจะอยู่ที่ Phase-1 Deal กล่าวคือ
1) สหรัฐฯจะลดอัตราภาษีลงเป็น 7.5% จากปัจจุบันที่ 15.0% กับสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 1.12 แสนล้านดอลลาร์ฯ ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา
2) สหรัฐฯ ยกเลิกการปรับขึ้นภาษีนำเข้าก้อนสุดท้าย ซึ่งเดิมกำหนดให้เริ่มเก็บในวันที่ 15 ธ.ค. ในอัตรา 15.0% กับสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 1.60 แสนล้านดอลลาร์ฯ
• ส่วนจีนตกลงจะซื้อสินค้าสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมูลค่ารวม 2 แสนล้านดอลลาร์ฯ ในระยะเวลา 2 ปี ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นการซื้อสินค้าเกษตรราว 5 หมื่นล้านดอลลาร์ฯต่อปี และจะเพิ่มความเข้มงวดในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงไม่บิดเบือนค่าเงิน
• ทั้งนี้สหรัฐฯจะยังไม่เปิดการเจรจา Phase-2 Deal ในระยะอันใกล้ ดังนั้นประเด็นด้านการค้าระหว่างประเทศของจีนและสหรัฐฯน่าจะอยู่ในลักษณะประวิงเวลาไปก่อน
• ส่วนประเด็นที่น่าติดตามและจะมีผลต่อการเคลื่อนไหวของตลาดสหรัฐฯ จะเป็นเรื่อง ของการประกาศผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯไตรมาส 4/2019 และความคืบหน้าการเลือกตั้งของสหรัฐฯ
• อนึ่ง เมื่อวานนี้ กระทรวงการคลังของสหรัฐฯได้ปลดล็อคจีนจากการเป็นประเทศผู้บิดเบือนค่าเงินหรือ Currency Manipulator โดยได้ให้เหตุผลว่าจีนและสหรัฐฯได้มีข้อตกลงทางการค้าร่วมกัน และจีนมีความโปร่งใสในการบริหารจัดการค่าเงินหยวนไม่ให้อ่อนค่าจนเกินไป
• สำหรับตัวเลขการส่งออกล่าสุดเริ่มที่จะ Turn เป็นบวก/หดตัวลดลง นำโดยประเทศในกลุ่ม North Asia และเวียดนาม
คำเตือน ข้อมูลในบทความนี้เป็นข้อมูลที่มีการเผยแพร่ต่อสาธารณะ ซึ่งนักลงทุนสามารถเข้าถึงได้โดยทั่วไป และเป็นข้อมูลที่เชื่อว่าน่าจะเชื่อถือได้ แต่ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (“บริษัท”) มิได้ยืนยันหรือรับรองถึงความถูกต้อง หรือสมบูรณ์ของข้อมูลดังกล่าวแต่อย่างใด ความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความนี้เป็นเพียงการนำเสนอในมุมมองของบริษัท และเป็นความคิดเห็น ณ วันที่ปรากฏในบทความเท่านั้น ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ภายหลังวันดังกล่าว โดยบริษัทไม่จำเป็นต้องแจ้งสาธารณชน หรือผู้ลงทุนทราบ บทความฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้น บริษัทไม่รับผิดชอบต่อการนำข้อมูลหรือความคิดเห็นใดๆไปใช้ในทุกกรณี ดังนั้นผู้ลงทุนควรใช้ดุลพินิจในการพิจารณา เนื่องจากการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนจึงควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน