Mckinsey Global Institute รายงานว่า ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial intelligence : AI) จะเพิ่มจีดีพีโลก 1.2% ต่อปี อย่างน้อยในอีก 10 ปีข้างหน้า หรือกล่าวโดยรวมแล้ว AI จะเพิ่มจีดีพีให้โลกถึง 13 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2030 ทำให้ AI มีส่วนสร้างเศรษฐกิจโลกเหมือนกับบทบาทของเครื่องจักรไอน้ำในสมัยปฏิวัติอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ Mckinsey Global Institute คาดการณ์ว่า มากกว่า 70% ของบริษัททั้งหมดจะต้องใช้ AI ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งภายในปี 2030 และในขณะเดียวกันบริษัทที่มีขนาดใหญ่จะใช้เทคโนโลยี AI เต็มรูปแบบมากกว่า
สำหรับ AI นั้นใช้ชุดข้อมูลใหญ่ และระบบอัลกอริทึ่มเพื่อเลียนแบบพฤติกรรมมนุษย์ ในขณะนี้ สหรัฐและจีนกำลังแข่งกันพัฒนา AI เพื่อก้าวสู่ความเป็นผู้นำ ซึ่งจีนมีแผนพัฒนา AI รองรับอยู่แล้ว โดยระบุชัดเจนว่าภายในปี 2030 จีนจะเป็นผู้นำโลกด้าน AI เพราะถ้าไม่มี AI เศรษฐกิจของจีนจะไม่บรรลุเป้าหมายของอัตราการเติบโต
McKinsey Global Institute ยังระบุอีกว่า จีนมีผลิตภาพต่ำกว่าอัตราเฉลี่ยของโลก
ในขณะที่เศรษฐกิจจีนกำลังเข้าสู่การเปลี่ยนถ่ายไปสู่การบริโภค โดยที่ AI จะมีผลกระทบต่อการขายหรือการตลาดทำให้การใช้จ่ายในการบริโภคจีนเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ AI จะช่วยเพิ่มรายได้สำหรับธุรกิจที่เกี่ยวของกับห่วงโซ่อุปทาน และภาคการผลิต แต่ที่สำคัญที่สุด AI จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจผ่านช่องทางที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคน รวมทั้งทำงานแทนคน ขยายผลิตภัณฑ์สินค้าและบริการ เพิ่มข้อมูลโลก และสร้างความมั่งคั่ง